การฝึกโยคะบาลานซ เป็นการใช้กล้ามเนื้ออีกแบบหนึ่งซึ่งต่างจากการฝึกโยคะปกติแม้ว่าจะฝึกในอาสนะเดียวกัน ทุกอย่างที่เคยง่ายๆจะกลับยากขึ้นมาทันที หากกายและใจไม่สมดุล การฝึกบาลานซนั้นเป็นการฝึกใช้สมาธิอย่างสูง เพราะหากใจว่อกแว่กเพียงนิดเดียว หม้อที่ทูนอยู่บนศีรษะก็จะร่วงลงสู่พื้นทันที ขอย้ำว่า ว่อกแว่กเพียงนิดเดียว นิดเดียวจริงๆค่ะ
ในการฝึกบาลานซนั้น เราไม่จำเป็นต้องค้างท่านานๆให้เหงื่อแตกพลั่กๆ แค่ประคองหม้อให้ตั้งอยู่บนศีรษะได้ก็เล่นเอาเหงื่อท่วมกันทีเดียว อาสนะจะลื่นไหลไปเรื่อยๆ แค่เราผสานกายให้เข้ากับหม้อที่ทูนอยู่บนศีรษะให้เป็นหนึ่งเดียวกัน แบบที่อาจารย์พูดเสมอว่า "อย่าแยกกายกับหม้อออกจากกัน" แม้จะฟังดูง่าย และเข้าใจไม่ยาก แต่พอฝึกจริงๆ กายยังคงเป็นกายและหม้อยังคงเป็นสิ่งแปลกปลอมที่มาตั้งอยู่บนศีรษะอยู่นั่นเอง ต่อเมื่อเวลาผ่านไปเกือบ ๓ ปี กับการฝึกฝน วันนี้ จึงเข้าใจ และสามารถประคองหม้อไม่ให้ร่วงลงมาอย่างง่ายดายได้เหมือนครั้งแรกๆ
การฝึกบาลานซแบบนี้ เป็นการ "ฝึกจิตคู่กับกายอย่างแท้จริง" แรกๆจะยากมาก ต้องอาศัยการฝึกฝนที่ต่อเนื่อง เมื่อร่างกายคุ้นเคยและจิตมีสมาธิจริงๆ อย่างที่อาจารย์เคยสอนว่า "ร่างกายเคลื่อนไหว จิตใจหยุดนิ่ง" เราก็จะสามารถประคองหม้อได้โดยไม่ยากเย็นอะไร ในทางตรงกันข้าม หากเราจดจ่ออยู่กับการระวังหม้อไม่ให้หล่นลงมามากเกินไป ร่างกายจะเกร็งตึง เราจะปวดคอหรือปวดหัวได้ ดังเช่น การปฏิบัติธรรมที่ครูบาอาจารย์เคยสอนเสมอว่า อย่า "เผลอ" เกินไป และอย่า "เพ่ง" เกินไป ดังนั้น หากบางครั้ง หม้อจะหล่นลงมาบ้าง ก็ให้ทำใจเป็นกลางและเฝ้าดูด้วยความปล่อยวางว่า มันเป็น "อนิจจัง" และ "มันเป็นเช่นนั้นเอง"
จากห้องเรียนโยคะบาลานซ หฐราชาโยคาศรม